วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เมนูสุดท้าย ขอเสนอ มาม่าผัดขี้เมาหมูสับ

มาม่าผัดขี้เมาหมูสับ


ส่วนผสม

มาม่า 2 ซอง

พริกชี้ฟ้าแดง  2เม็ด

พริกขี้หนูสวน  5-10 เม็ด

กระเทียม 3 กลีบ

ใบโหรพา ใบมะกรูด กระชาย

พริกไทยอ่อน

น้ำตาลทราย 1 ช้อน

น้ำปลา 2ช้อน

ซีอิ๊วดำ 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันพืช

หมูสับ






วิธีทำ

1. เริ่มจากการนำมาม่าไปทำการลวกให้เส้นนุ่ม (พอประมาณ ไม่ต้องนิ่มมาก) เสร็จแล้วตักใส่ภาชนะ


2. ใส่น้ำมันให้ร้อน แล้วใส่กระเทียมสับลงไป ผัดให้หอม แล้วใส่หมูสับที่เตรียมไว้ลงกระทะ ผัดให้พอสุก


3. จากนั้นใส่กระชาย  พริกชี้ฟ้า พริกขี้หนู ใบมะกรูด พริกไทยอ่อน คลุกเคล้าให้เข้ากัน


4. นำมาม่าที่ลวกสุกแล้วลงใส่กระทะ คลุกเคล้าให้เข้ากัน


5. ปรุงด้วย น้ำตาล น้ำปลา ใส่ซีอิ๊วดำ และผัดให้เข้ากันจนกลิ่นหอม 


6. ตักใส่จาน ตกแต่งให้สวยงาม พร้อมรับประทาน







วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เส้นใหญ่ให้โทษ !!



        ใครที่ชอบสั่งเส้นใหญ่เวลาทานก๋วยเตี๋ยวเป็นประจำนั้น คงต้องลองเปลี่ยนสั่งเส้นอื่นทานสลับกันบ้างแล้ว เพราะผลการวิจัยพบว่า เส้นใหญ่เป็นเส้นที่อันตรายมากที่สุด ในบรรดาเส้นก๋วยเตี๋ยวทั้งหลาย เนื่องจากเส้นใหญ่มีปริมาณน้ำมันที่ใช้ซ้ำมากที่สุด อีกทั้งยังเป็นน้ำมันที่ผสมกันหลายชนิด ซึ่งได้แก่ น้ำมันปาล์มและน้ำมันถั่วลิสง ส่วนที่เส้นใหญ่ต้องใช้น้ำมันทาลงบนเส้นเยอะก็เพราะว่ากันไม่ให้เส้นก๋วยเตี๋ยวเกาะติดกันจนเละ การที่มีน้ำมันมากๆ นี้จะทำให้เกิดการสะสมของสารที่ส่งผลต่อการทำงานของเซลล์ภายในร่างกาย โดยเฉพาะจะ เป็นโทษต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจ มีโอกาสเป็นโรคความดันสูงและโรคหัวใจได้ง่าย นอกจากนี้สารปนเปื้อนในน้ำมันอย่าง สารอะฟลาทอกซิน จะทำให้ยีนกลายพันธุ์ เป็นพิษต่อตับจนกลายเป็นโรคตับอักเสบหรือมะเร็งตับได้ รวมไปถึงหากเด็กเล็กได้รับสารนี้ในปริมาณมากอาจเป็นไข้ ชัก สมองบวม และเสียชีวิตได้

            ยิ่งไปกว่านั้นก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่เป็นเส้นสดที่ไม่สามารถค้างไว้ได้หลายวัน ทำให้ผู้ขายมักจะเติมสารกันบูดอย่างกรดเบนโซอิกและกรดซอร์บิกลงไปเพื่อยับยั้งการเติบโตของจุลินทรีย์และยืดอายุเส้นก๋วยเตี๋ยวให้สามารถจำหน่ายได้นานขึ้น สำหรับสารกันบูดนี้ หากร่างกายได้รับในปริมาณสูงและเป็นเวลานานจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของตับและไตลดลง

           นอกจากนี้ในการทำเส้นใหญ่มักจะใช้สารส้มตีผสมกับน้ำ ใส่ผสมลงไปในเส้นก๋วยเตี๋ยวด้วย เพราะคุณสมบัติเฉพาะตัวของสารส้มจะช่วยให้เส้นเหนียวนุ่มกำลังดี แต่ในขณะเดียวกันสารส้มก็จะส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้เรารู้สึกเวียนหัว คลื่นไส้ และอาเจียน          

          

แหล่งอ้างอิง :  http://www.aroi.com/content/130701172110

วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เมนูที่3 ขอเสนอ ราดหน้าหมู

ราดหน้าหมู



ส่วนผสม

เนื้อหมูสันใน

ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่


คะน้าหั่นพอดีคำ


เห็ดนางฟ้า  ข้าวโพดอ่อน


เต้าเจี้ยว 2 ช้อนโต๊ะ   เกลือ


ซีอิ้วดำ  1 ช้อนโต๊ะ


น้ำมันพืช 1/4 ถ้วย


แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ


น้ำตาลทราย 1  1/2 ช้อนโต๊ะ


น้ำซุป 2 ถ้วย




วิธีทำราดหน้าหมู

1.นำเส้นใหญ่คลี่ออกให้เป็นเส้นไม่ติดกัน

2.ตั้งกระทะบนไฟกลาง รอจนกระทะร้อน ใส่น้ำมัน 3 ช้อนโต๊ะ ใส่เส้นก๋วยเตี๋ยวลงไปผัด เติมซีอิ๊วดำ ผัดจนเส้นก๋วยเตี๋ยวและซีอิ๊วดำเข้ากันทั่วจึงปิดไฟ และนำเส้นออกมาใส่จานเตรียมไว้

3.ใส่น้ำมันในกระทะและนำไปตั้งไฟ เติมเต้าเจี้ยวผัดจนหอม ใส่หมูหมักลงไปผัดจนพอสุก

4. ใส่น้ำซุป แล้วปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา รอจนกระทั่งน้ำเริ่มเดือด จึงใส่น้ำแป้ง ระหว่างใส่น้ำแป้งต้องคนอย่างต่อเนื่อง และใส่ผักที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากัน จนเดือด

5. ราดน้ำซุปบนเส้นก๋วยเตี๋ยวที่จัดใส่จานไว้แล้ว









วันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เมนูที่สอง ขอเสนอ สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศหมูสับ

สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศหมูสับ

ส่วนผสมของสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศหมูสับ


  • เส้นสปาเก็ตตี้
  • เนื้อหมูสับ
  • มะเขือหั่นเป็นลูกเต๋า
  • หอมใหญ่หั่นเป็นลูกเต๋า
  • ซอสมะเขือเทศ
  • ดอกกะหล่ำ
  • น้ำตาล  น้ำปลา
วิธีการทำ

1.ต้มน้ำให้เดือดแล้วนำดอกกะหล่ำที่หั่นไว้ใส่ลงไป ต้มประมาณ 10 นาที ครบ 10 นาที ตักใส่ภาชนะที่เตรียมไว้

2.ต้มน้ำให้เดือดแล้วนำเส้นสปาเก็ตตี้ลงไป ใส่เกลือเล็กน้อย ต้มประมาณ 10-15 นาที เมื่อครบกำหนด ตักใส่ภาชนะทราเตรียมไว้

3.นำกระทะตั้งไฟให้ร้อนใส่น้ำมันเล็กน้อย ใส่หมูสับ มะเขือเทศสับ หอมใหญ่สับ ซอสมะเขือเทศ ดอกกะหล่ำ คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วปรุงรสด้วย น้ำตาล น้ำปลา คลุกเคล้าอีกรอบ

4.นำเส้นสปาเก็ตตี้ใส่จาน ตักซอสหมูราดหน้า ตกแต่งให้สวยงาม พร้อมรับประทาน




เฝอคืออะไร อะไรคือเฝอ ?



       เฝอ  เป็นอาหารเวียดนามชนิดหนึ่ง มีลักษณะคล้ายก๋วยเตี๋ยวของไทย แต่ต่างกันที่เส้น น้ำซุป และเครื่องเคียงประกอบด้วยเส้นก๋วยเตี๋ยวที่เรียกว่า บั๊ญเฝอ ซึ่งคล้ายเส้นเล็กแต่กว้างกว่า หรือเป็นเส้นกลมสีขาวขนาดใหญ่กว่าขนมจีนเล็กน้อย ในน้ำซุปที่เคี่ยวจากเนื้อวัว (หรือเนื้อไก่) กระดูก หางวัว และเครื่องเทศบางชนิด เช่น อบเชย   เมล็ดดอกจัน ขิง กานพลู กระวานดำ เป็นต้น และตกแต่งด้วยหัวหอม ต้นหอม ผักชี ผักชีฝรั่ง สะระแหน่ โหระพา มะนาวหรือเลมอน ถั่วงอก และพริกหยวก ซึ่งสี่อย่างหลังมักจะแยกไว้เป็นอีกจานต่างหาก เพื่อให้ผู้รับประทานเติมได้ตามชอบ สำหรับซอสบางอย่างที่เป็นที่นิยมได้แก่ ซอสฮอยซิน น้ำปลา และซอสพริกศรีราชา




แหล่งอ้างอิง : http://www.uasean.com/aroundasean/806

วันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เส้นพาสต้ากับซอสอะไรถึงจะอร่อย

             


        เส้นพาสต้าหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบเส้นยาว  เส้นสั้น  เส้นเกลียว เส้นแบน และอีกมากมาย ซึ่งทั้งหมดถูกเรียกรวมกันว่าเส้นพาสต้า เส้นพาสต้าแต่ละชนิดนั้นมีความพิเศษที่แตกต่างกัน เพื่อให้สามารถดูดซับรสชาติของซอสแต่ละชนิดที่มีความแตกต่างเช่นกันได้อย่างดี อาหารจานเส้นของคุณก็จะอร่อยขึ้นเมื่อคุณรู้จักวิธีการจับคู่เส้นพาสต้ากับซอสแต่ละชนิดได้อย่างเหมาะสม


1.เส้นที่มีลักษณะเป็นหลอด หรือ Tubes


             เหมาะกับซอสที่มีเนื้อมีหนัง ตัวของซอสสามารถเข้าไปในเส้นและอุ้มตัวซอสไว้ได้ เพื่อให้ได้รสชาติของซอสและเส้นพาสต้าที่เข้ากันเป็นอย่างดี ดังนั้นการเลือกเส้นแบบหลอดนี้จึงควรคำนึงถึงส่วนประกอบของซอสว่าใช้วัตถุดิบชิ้นใหญ่หรือเล็กขนาดไหน แล้วจึงเลือกใช้เส้นพาสต้าที่มีขนาดเล็กใหญ่ให้เหมาะสมกัน ถ้าหากเป็นซอสที่มีส่วนผสมของผักชิ้นใหญ่หรือเม็ดถั่วก็อาจเหมาะกับเส้นอย่าง Rigatoni แต่ถ้าเป็นซอสมะเขือเทศกับเนื้อชิ้นเล็กๆก็น่าจะเหมาะกับ เส้น Penne หรือ Ziti มากกว่า



2.เส้นที่มีลักษณะแบนและกว้าง หรือ Ribbons

         

       

     เหมาะกับซอสที่มีลักษณะเป็นครีมข้น เพราะเส้นจะมีพื้นที่ให้ซอสได้เกาะตัวมากกว่าชนิดอื่นๆ ยิ่งเส้นมีความกว้างมากเท่าไหร่ ซอสก็ยิ่งสามารถเกาะตัวได้มากเท่านั้น







3.เส้นที่มีลักษณะเป็นแท่ง หรือ Rods


       

        เป็นเส้นกลม ยาว และไม่มีรู เหมาะกับน้ำมันมะกอกและซอสที่มีมะเขือเทศเป็นหลัก เพราะจะสามารถเคลือบเส้นได้ดี และทั่วถึง ยิ่งเส้นเล็กลงมากเท่าไหร่ก็ควรเลือกจับคู่กับซอสที่เหลวและเนื้อเบาลงเท่านั้น







4.เส้นที่มีลักษณะเป็นรูปต่างๆ หรือ Shapes

                                                                                      

                

         นอกจากพาสต้าที่เป็นเส้นกลม เส้นแบน แล้วยังมีเส้นที่มีรูปร่างต่างออกไปอีกมากมาย เช่น รูปโบว์ รูปเปลือกหอย รูปเกลียว ฯลฯ ซึ่งเส้นเหล่านี้เหมาะกับซอสที่มีผักหรือเนื้อชิ้นใหญ่ๆ เพราะเส้นแบบนี้จะมีช่องเล็กๆเพื่อให้ซอสสามารถแทรกเข้าไปได้ อีกทั้งขณะรับประทานก็ยังสามารถใช้ช้อนตักเข้าปากได้ในคำเดียวทั้งเส้นและซอสเพราะเป็นเส้นสั้นๆ รับประทานง่าย




แหล่งอ้างอิง : http://th.openrice.com/th/restaurant/article/detail.htm?article_id=1912






วันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เมนูแรกขอเสนอ ยำวุ้นเส้นกุ้งสด

  วันนี้มานำเสนอเมนูง่ายๆ สามารถทำเองได้ที่บ้าน มาเริ่มกันที่เมนูแรกเลย


ยำวุ้นเส้นกุ้งสด




ส่วนผสมยำวุ้นเส้น

วุ้นเส้น 1 ห่อ 

กุ้งสด 

น้ำปลา 2 1/2 ช้อนโต๊ะ

ผักชี ขึ้นฉ่ายอย่างละ1ต้น

น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

พริกขี้หนู เผ็ดมากน้อย แล้วแต่ความชอบ         

หอมหัวใหญ่ 1 ลูก

มะเขือเทศ 2-3 ลูก 




วิธีทำยำวุ้นเส้น

1.ต้มน้ำให้เดือด นำกุ้งสดลงไปลวก จนสุก ตักใส่กระชอน (พักไว้)

2.ต้มน้ำให้เดือด จากนั้นนำวุ้นเส้นลงไปลวก ตักขึ้นมาใส่กระชอน (พักไว้)

3. นำวุ้นเส้น กับกุ้งสด ไปผสมกับเครื่องปรุงที่ซอยทิ้งไว้ คลุกให้เข้ากัน

4.ชิมรส เพิ่มรสชาติ ได้ตามชอบ

5.โรยหน้าด้วย ผักชี ขึ้นฉ่าย จัดใส่จานให้สวยงาม พร้อมรับประทาน






http://www.youtube.com/watch?v=KrPwMLFO5m0

วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

สารพัดเรื่องเส้นๆ จากญี่ปุ่น

        ก๋วยเตี๋ยวสไตล์ญี่ปุ่นมีเส้นหลายแบบมากมาย และเส้นก๋วยเตี๋ยวทุกแบบนั้น ทำมาแป้งและน้ำเป็นหลัก แต่อาจจะมีอย่างอื่นผสมลงไปด้วยเช่นสีผสมอาหาร เพื่อเพิ่มความสวยงามน่ารับประทาน รวมไปถึงวัตถุดิบเพิ่มรสชาติ และคุณค่าทางอาหารมากขึ้น เช่น เกลือ ไข่ ชาเขียว สาหร่ายเป็นต้น


* สงสัยมั้ยว่า ทำไมญี่ปุุ่นเค้าต้องทำเส้นหลากหลายประเภท งั้นเราไปหาคำตอบกันเลย



โซบะ (Soba)



       ทำมาจากแป้งบักวีค (Buckwheat) เส้นมีสีน้ำตาลอ่อน ไม่ผสมแป้งชนิดอื่นลงไปมากนัก โดยทั่วไปจะเสิร์ฟพร้อมวาซาบิและสาหร่ายโนริ โซบะชนิดนี้หากเสิร์ฟแบบเย็นบนถาดไม้ไผ่จะเรียกว่า "ซารุโซบะ" (Zaru Soba) หรือหมี่เย็น ซึ่งเป็นอาหารยอดนิยมในฤดูร้อน ชะโซบะ (Cha soba) ลักษณะเหมือนเส้นโซบะแต่มีสีเขียว เพราะทำมาจากบักวีตกับชาเขียว

 


ราเม็ง (Ramen)



         ลักษณะเหมือนเส้นบะหมี่ หรือหมี่เหลืองบ้านเรา แต่เส้นกลมสีเหลือง ได้รับอิทธิพลมาจากจีน คำว่า Ramen ออกเสียงคล้ายกับ Lo mein ในภาษาจีน ซึ่งแปลว่า เส้นต้ม (Boiled Noodles) และมักจะเสิร์ฟในน้ำซุปที่มี 4 รส ได้แก่ น้ำซุปเต้าเจี้ยวญี่ปุ่น (Miso) น้ำซุปรสเกลือ (Shio) น้ำซุปซีอิ๊วญี่ปุ่น (Shoyu) น้ำซุปจากน้ำต้มกระดูกหมูน้ำข้น (Tonkotsu)



อุด้ง (Udon)



         ทำจากแป้งสาลีผสมเกลือและน้ำเล็กน้อยนวดแล้วตัดเป็นเส้นยาวๆ ลักษณะของเส้นกลมยาวสีขาว หนา นุ่ม อุด้งต่างจากโซบะ และราเมงตรงที่เวลากินไม่ต้องจุ่มเส้นในน้ำซุปก่อนกิน ด้วยความที่มีขนาดเส้นใหญ่และเหนียวนุ่ม จึงให้ความอบอุ่นเป็นอย่างดีในฤดูหนาว



โซเม็ง (Somen)


 

         คล้ายเส้นขนมจีน สีขาวนวล แต่เส้นเล็กและบางกว่าอุด้ง ทำจากแป้งสาลี มีชื่อเต็ม ๆ ว่า "ฮิยาชิ โซเมง" (Hiyashi Somen) นิยมกินกวันในฤดูร้อน โดยทำเป็นหมี่เย็นเสิร์ฟบนน้ำแข็งคู่กับซอสที่ชื่อ สึยุ (Tsuyu) ที่มีรสชาติหลักของปลาโอแห้ง ฮอนดาชิ สาเก มิริน น้ำตาล



 ฮิยามูกิ (Hiyamugi)




            ฮิยา แปลว่า เย็น ส่วน มูกิ แปลว่า ข้าวสาลี รวมแล้วแปลได้ว่า "ข้าวสาลีที่กินแบบเย็นๆ" เริ่มแพร่หลายมาจากแถบคันไซ ฮิยามูกิมีขนาดเส้นเล็กใกล้เคียงกับโซเม็ง แต่มีความเหนียวนุ่มคล้ายกับอุด้ง และนิยมกินแบบเย็นๆ ในฤดูร้อนเช่นเดียวกับโซเม็ง ส่วนประกอบของเส้นคือแป้งสาลีกับน้ำเกลือ นวดแป้งและรีดให้เป็นแผ่นบาง ตัดให้เป็นเส้นก่อนนำมาพันให้เป็นก้อนก่อนลวกในน้ำร้อนและผ่านน้ำเย็น จากนั้นกินกับน้ำซอสเย็นแบบเดียวกับโซเม็ง



เส้นบุก (Shirataki) 




        เส้นใสคล้ายวุ้นเส้น แต่เส้นใหญ่กว่าทำจากหัวบุก (Elephant Yam) หรือ คอนยัก (Konjac) นิยมใส่ในอาหารประเภทหม้อไฟหรือสุกียากี้ ก่อนนำมาทำอาหารต้องลวกในน้ำเดือดให้หมดกลิ่นคาว

 

 วุ้นเส้นญี่ปุ่น




         ลักษณะเส้นใส แต่ใหญ่กว่าเส้นวุ้นเส้นของบ้านเรา มี 2 ชนิดคือ คึสึคิริ (Kuzukiri) ซึ่งทำจากแป้งมันผรั่งและแป้งรากสามสิบ อีกชนิดหนึ่งคือ ฮารุซาเมะ (Harusame) ทำจากแป้งมันฝรั่ง และแป้งข้าวโพด โดยทั้ง 2 ชนิดต้องต้มประมาณ 8-10 นาที ก่อนนำมาปรุงอาหาร เช่น สุกียากี้ แต่ถ้าทำป็นแกงจืดก็ต้มไปพร้อมกับน้ำแกงได้เลย

 

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (Instant Noodles)




          นับเป็นสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นภาคภูมิใจมากที่สุด ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 เลยก็ว่าได้ มีต้นกำเนิดมาจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นเกิดภาวะขาดแคลนอาหาร และได้รับบริจาคแป้งสาลีจากสหรัฐอเมริกาจำนวนมาก "โมโม-ฟุกุ อันโด" ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทนิชชิน จึงคิดนำแป้งสาลีมาแปรรูปทำเป็นเส้นบะหมี่แห้ง ซึ่งผ่านการแช่ในน้ำซุป และทอดด้วยน้ำมันร้อนจัดก่อนนำมาผึ่งให้แห้งเพื่อจะได้เก็บไว้นานๆ นำมากินได้ทันทีเมื่อเติมน้ำร้อน เริ่มต้นด้วยบะหมี่รสไก่ เป็นรสชาติแรกที่ออกวางขาย ปัจจุบันญี่ปุ่นถือเป็นเจ้าแห่งบะหมี่สำเร็จรูป เพราะมีหลากรส หลายเส้นให้เลือกซื้อตามสะดวก เพียงฉีกซอง ใส่เครื่องปรุง ชงนำร้อน 3 นาที ก็ทานได้แล้ว  



แหล่งอ้างอิง : http://www.ilovetogo.com/Article/71/554/

 

วันพุธที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เคล็ดไม่ลับกับเส้นพาสต้า

เคล็บลับการต้มพาสต้าให้อร่อย


- ควรใช้ภาชนะที่มีหน้ากว้างพอดีกับเส้นเพื่อป้องกันไม่ให้เส้นพาสต้าหัก

- ควรใส่เส้นลงต้มแบบหมุนมือเพื่อไม่ให้เส้นจับกันเป็นก้อน

 - ควรใส่เกลือในขณะต้มเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติความเค็มอ่อน ๆ ให้กับเส้น และช่วยเพิ่มอุณหภูมิในขณะต้ม

- ควรใส่น้ำมันพืชในขณะต้มเล็กน้อย เพื่อป้องกันการเกิดฟองที่มาจากแป้งในระหว่างต้มล้นออกมาจากหม้อ และช่วยเคลือบเส้นไม่ให้ติดกัน

- คำนวณเวลาในการต้มตามฉลากของผลิตภัณฑ์เพื่อให้ได้เส้นพาสต้าที่อร่อย ไม่แข็ง และไม่เละจนเกินไป

- ใช้ที่หนีบคอยดึงเส้นเบา ๆ เพื่อไม่ให้เส้นติดกัน หมั่นคนเพื่อไม่ให้เส้นติดหม้อ และเพื่อให้ความร้อนกระจายทั่วเส้นทำให้เส้นพาสต้าสุกทั่ว

- หากน้ำที่ใช้ต้มเส้นพร่องลง ควรเปลี่ยนน้ำทิ้งแล้วใส่ใหม่ ไม่ควรเติม

- นำเส้นพาสต้าที่ต้มจนสุกแล้วไปผ่านน้ำเย็นทันทีเพื่อหยุดการสุก จะทำให้ได้เส้นพาสต้าที่เหนียวนุ่ม และอร่อยยิ่งขึ้น

- เมื่อต้มเสร็จ และเอาน้ำร้อนออกแล้วไม่ควรพักทิ้งไว้นาน ควรนำไปประกอบอาหารทันทีเพื่อให้ตัวซอสที่นำมาปรุงนั้นเกาะกับตัวเส้นให้ได้มากที่สุด



แหล่งอ้างอิง : http://cooking.kapook.com/view71007.html

วันอังคารที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เส้นบุกลดความอ้วนได้จริงหรือ ?

เส้นบุกคืออะไร?

          บุก คือ พืชในตระกูลเดียวกันกับบอน (Araceae) เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นอวบ ไม่มีแก่น สูง 3 – 6 ฟุต มีดอกสีม่วงเหมือนดอกหน้าวัวเป็นพืชท้องถิ่นของ ประเทศญี่ปุ่น จีน ไทย ฟิลิปปินส์ และอินโดจีน ในประเทศไทยพบบุกมากในจังหวัด กำแพงเพชร เชียงใหม่ พะเยา กาญจนบุรี นิยมรับประทานส่วนหัวของบุกเพราะมีสารสำคัญตัวหนึ่งซึ่งเรียกว่า กลูโคแมนแนนเป็นคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งชนิดหนึ่งซึ่งประกอบด้วย กลูโคส แมโนส ฟรุคโทส มีลักษณะข้นๆ เหนียวๆ ก่อนจะนำมาบริโภคจะต้องผ่านกรรมวิธีที่มากมายในการกำจัดยางและล้างพิษที่อาจจะทำให้คันได้ นำมาขายเป็นเส้นๆ หรือเป็นชิ้นๆ ซึ่งนำไปประกอบอาหารแทนเนื้อสัตว์ได้ เพราะไม่มีรสชาติจึงสามารถปรุงรสได้ตามความชอบ บางครั้งอาจนำมาขายในลักษณะผงชงเป็นเครื่องดื่มรสต่างๆ ความเหนียวหนืดของกลูโคแมนแนนจะชะลอการดูดซึมของกลูโคสจากทางเดินอาหารไปยังส่วนอื่นๆของร่างกาย ช่วยถ่วงท้องให้อิ่มเร็ว การบริโภคอาหารอื่นๆ จึงน้อยลงโดยปริยายทำให้นิยมมากในวงการผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักใยและกากอาหารจะทำให้ลำไส้บีบตัวมากขึ้นทำให้การขับถ่ายเป็นไปได้ดี


       ** การควบคุมหรือลดน้ำหนักด้วยการบริโภคบุกพร้อมกับการรับประทานอาหารอื่น ๆ ครบ 5 หมู่ ไม่มีอันตรายต่อร่างกายใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะเป็นใยอาหารธรรมชาติไม่ใช่สารเคมีสกัด



เกร็ดน่ารู้

       เส้นบุก เป็นอาหารที่มีเส้นใยสูง เมื่อนำมาทำเป็นยำมังสวิรัติจึงเป็นอาหารสุขภาพชั้นยอดอีกจาน และยังเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอีกด้วย เพราะป็นอาหารที่ให้พลังงานต่ำ อาหารจานนี้จึงเป็นอาหารมื้อเย็นได้อย่างดี 
       เส้นบุก ก่อนนำมายำ ต้องลวกก่อน การลวกต้องรอให้น้ำเดือดจัดจึงใส่เส้นบุก จะได้เส้นบุกที่นุ่ม และการทำน้ำยำ สัดส่วนของน้ำมะนาวและซีอิ๊วขาวต้องเท่าๆ กัน รสชาติจะกลมกลืนกัน ไม่เปรี้ยวหรือเค็มจนเกินไป 


แหล่งอ้างอิง : http://guru.sanook.com/6298/%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%81/

วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ทายนิสัยจากเส้น

เส้นใหญ่

         ถ้าคุณชอบทานเส้นใหญ่ คุณเป็นคนหนักแน่น ทำอะไรทำจริง แบบไม่ดีไม่ได้ไม่เลิก เป็นคนอ่อนไหว อะไรที่มากระทบกับความรู้สึกจะครุ่นคิด วิเคราะห์หาที่มา และบางครั้งทำให้เครียด ไม่ค่อยพูด เงียบขรึม ตรึกตรอง ทบทวน รักเพื่อน รักสัตว์ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น และยังชอบแก้ปัญหาให้คนอื่นอีกด้วย


เส้นเล็ก 

        ถ้าคุณชอบทานเส้นเล็ก คุณเป็นคนรวยอารมณ์ขัน เพื่อนฝูงมากมาย มีมุขฮาตลกๆ ให้คนรอบข้างได้ขำเสมอ เป็นศูยน์รวมของเพื่อน ไม่ชอบคิดเล็กคิดน้อย และแม้มีปัญหาเข้ามาในชีวิตคุณก็ยังยิ้มเสมอ แต่ค่อนข้างขาดความเชื่อมั่นในตัวเองในบางครั้ง ไม่กล้าชนปัญหา แต่ยิ้มกับปัญหา ค่อนข้างเจ้าช ู้เสน่ห์แรงพอตัว รักเพื่อนมากบางครั้งอาจลืมคนใกล้ตัวไปบ้าง

เสันหมี่ 

       ถ้าคุณชอบทานเส้นหมี่ คุณเป็นคนเก็บตัว แต่เรียนเก่งชะมัด ใฝ่รู้ รักการอ่าน ชอบค้นคว้าชนิดหนอนหนังสือเลยทีเดียว ร้านหนังสือตามห้างมักได้เงินจากคุณอย่างสม่ำเสมอ โรเเมนติกอยู่คู่กับคุณ คุณเป็นคนปราณีตกับแฟน เอาใจใส่ทุกเรื่อง ทุกรายละเอียด แต่แฟนของคุณอย่าลืมวันเกิดเชียว คุณจะงอนไปเลย แฟนคุณกว่าจะเดาอาการคุณออก คุณก็งอนเรื่องใหม่ซะแล้ว

เส้นบะหมี่ 

      ถ้าคุณชอบทานเส้นบะหมี่ คุณเป็นคนที่ชอบโลดโผนผจญภัย ท่องเที่ยวไปทุกที่ แต่จะมักไม่ค่อยโรแมนติก หากมีแฟน แฟนของคุณจะต้องเข้าใจคุณเป็นอย่างมาก คุณมักมุ่งไปข้างหน้า ไม่มองข้างหลัง มีความฝัน ค้นหา ท้าทาย แต่ไม่ชอบวางแผนชีวิต คุณเป็นคนรักของครอบครัวและเพื่อนฝูง อีกทั้งคุณยังเป็นคนใจดี

เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (หรือมาม่า) 

      ถ้าคุณชอบทานเส้นบะหมี่กี่งสำเร็จนี้ คุณเป็นคนถือตัวชะมัด ไม่ชอบง้อใคร ไม่ชอบขอใคร พึ่งพาตนเอง ไม่มีใครรู้สถานะที่แท้จริงของคุณหรอก ชอบและรักเสียงเพลง ละเมียดละมัยพอประมาณ เป็นคนฟุ่มเฟือย แต่ทำงานเก่ง การเรียนไม่เท่าไหร่ กิจกรรมเด่น แต่ออกจะเจ้าอารมณ์ บางครั้งพาลไม่มีเหตุผลเอาดื้อๆ

เส้นขนมจีน (ข้าวปุ้น) 

      ถ้าคุณชอบทานเส้นขนมจีน เขาว่าคุณเป็นคนขี้เหนียว แต่คุณบอกเพื่อนว่าคุณถูกสอนให้รู้จักใช้เงิน คุณไม่ชอบซื้อของพร่ำเพรื่อ แต่ชอบซื้อของดี แพงไม่ว่า ถ้าถูกใจคุณคุณสามารถเททั้งกระเป๋าแบบไม่สนใจใคร คุณขี้รำคาญคน แต่ชอบช่วยเหลือสังคม อาชีพ ส.ส. น่าจะเหมาะกับคุณ คุณเป็นคนช่างเลือกแฟนต้องดูดีเสมอ ถ้าไฮโซยิ่งดี มีสีหน่อยคุณจะภูมิใจมาก คุยทั้งวันไม่หยุด

เส้นสปาร์เก็ตตี้ 

     ถ้าคุณชอบทานเส้นสปาร์เก็ตตี้ คุณเป็นคนดุ น่าจะเป็นครูปกครอง หรือเป็นตำรวจสายปราบปราม ทำงานด้านกฎหมายยิ่งดีใหญ่ ใครอย่ามาเอาเปรียบคุณเชียว คุณเอาเรื่องไม่เลิก แต่คุณไม่ชอบก้าวก่ายใคร ไม่ชอบการเมือง ส่วนตัวคุณเป็นคนโอบอ้อม อารี แต่ไม่แสดงออก เวลาน้ำท่วมไฟใหม้ที่ไหนไปดูซิ มีของที่คุณนำไปบริจาคเพียบ แต่คุณไม่ติดชื่อของคุณไปด้วยหรอก


แหล่งอ้างอิง :https://www.facebook.com/tagonkuamkid/posts/557010561006075

วันพุธที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

รอบรู้เรื่องสารพัดเส้น

สารพัดเส้นบอกแคลอรี่ 


1.เส้นหมี่ขาว : เส้นหมี่ให้พลังงานประมาณ 150 กิโลแคลอรี่


2.เส้นเล็ก : เส้นเล็กให้พลังงานประมาณ 180 กิโลแคลอรี่


3.เส้นใหญ่ : เส้นใหญ่จะมีแคลอรี่สูงที่สุด เพราะมักจะเคลือบน้ำมัน ทำให้ในปริมาณ 100 กรัมให้พลังงานสูงถึง 220 กิโลแคลอรี่


4.เส้นบะหมี่ : ให้พลังงาน 300 กิโลแคลอรี่


5.เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป(มาม่า) : ให้พลังงาน 280 กิโลแคลอรี่


6.วุ้นเส้น : ให้พลังงาน 330 กิโลแคลอรี่


7.เส้นขนมจีน :ให้พลังงาน 80 กิโลแคลอรี่


8.เส้นพาสต้า: ให้พลังงาน 200-250 แคลอรี่


แหล่งอ้างอิง :http://lifestyle.th.msn.com/health/tips/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E2%80%98%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%99%E2%80%99